“𝙏𝙚𝙖𝙧 𝙎𝙩𝙖𝙞𝙣𝙨” คราบน้ำตาปัญหาสุดกลุ้ม ทำตามคำแนะนำรูปแบบใหน ก็ไม่หายสักที…😓เพราะอะไร?

ให้วิทยาศาสตร์เป็นผู้ให้คำตอบกันดีกว่าครับ

ทำไมน้องสุนัขถึงมีคราบสีน้ำตาลใต้ตา การเปลี่ยนสีของน้ำตาให้เป็นสีน้ำตาลคล้ำนั้นเกิดจากสารเคมีที่เรียกว่าพอร์ไฟริน (Porphyrin) สารประกอบของของเสียที่ร่างกายขับออก สำหรับมนุษย์แล้ว เจ้าพอร์ไฟรินจะถูกขับออกทางน้ำดีและลำไส้เป็นหลัก แต่ในสุนัขพอร์ไฟรินกลับถูกขับออกมาในรูปแบบน้ำตา น้ำลาย และปัสสาวะ เราจึงพบได้ว่า ไม่ใช่แค่ใต้ตาเท่านั้นที่มีคราบสีน้ำตาล แต่ใต้คางน้องก็มีคราบสีเดียวกัน หรือบางทีเวลาที่น้องเลียอุ้งเท้าบ่อยๆ สีของขนในอุ้งเท้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีน้าตาลได้เหมือนกัน และยิ่งเห็นชัดในน้องที่มีขนสีขาว

รักษาเท่าไรก็ไม่หายไป ปัญหาทางพันธุกรรมของสายพันธุ์ สาเหตุหลักที่เราจัดการกับคราบน้ำตาได้ยากมากๆ นั้นเกิดจากการดัดแปลงทางพันธุ์กรรมของสุนัข ให้มีรูปร่างหน้าตาน่ารักมากมายหลากหลายรูปแบบ เช่น หน้าสั้น จมูกสั้น ตาโปน หน้าย่น หน้าเรียวเล็ก ลักษณะเหล่านี้ส่งผลให้ท่อลำเลียงน้ำตามีลักษณะที่ผิดรูป เช่น คดเบี้ยว สั้น หรือตีบ ทำให้ร่างกายมีการขับพอร์ไฟรินออกมาผิดปรกติ เราจึงพบว่าคราบน้ำตาในน้องสุนัขบางสายพันธุ์นั้นไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เช่น เฟร้นช์บูลด็อค มอลทีส ชิสุ พุดเดิล ปอมเมอราเนียน ชิวาว่า ฯลฯ ต่างจากน้องสายพันธุ์ที่มีลักษณะสัดส่วนใบหน้าที่ไกล้เคียงกับสุนัขป่า...ที่ถึงแม่จะมีคราบน้ำตาบ้างเป็นบางครั้งก็สามารถจัดการได้

คราบน้ำตาบ่งบอกถึงอันตรายหรือไม่ คราบน้ำตาหรือคราบพอร์ไฟรินจริงๆ แล้วไม่มีอันตรายใดๆ ในน้องสุนัขครับ และนับเป็นปัญหาด้านความงามเพียงเท่านั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ แต่หากปัญหาน้ำตานั้นเกิดจากความผิดปรกติภายในของร่างกายทีบ่งบอกว่าน้องมีโรค เกิดจากการที่ขนทิ่มแทงตาทำให่มีน้ำตาออกมามาก หรือเกิดจากความผิดปรกติของเปลือกตา แบบนี้ต้องเข้ารับการรักษาอย่างแน่นอนครับ

คราบน้ำตาถึงแม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ 100% ในน้องสุนัขบางสายพันธุ์ แต่สามารถลดปริมาณลงได้เพียงเลือกชนิดโปรตีนที่เหมาะสมกับร่างกายน้องหรือโปรตีนที่ร่างกายขับของเสียออกมาน้อยที่สุดนั่นเอง น้องแต่ละคนมีโปรตีนที่เหมาะสมต่างกันออกไป สามารถปรึกษานักโภชนาการของ Hound Origin ได้ที่